
Episodes

Saturday Jan 01, 2022
25641230am--ทำอย่างไรให้หายโกรธ
Saturday Jan 01, 2022
Saturday Jan 01, 2022
30 ธ.ค. 64 - ทำอย่างไรให้หายโกรธ : เพราะฉะนั้น เวลาพูดว่า “ทำอย่างไรให้หายโกรธ” มันไม่ใช่แค่โกรธคนอื่น โกรธตัวเองด้วย เพราะฉะนั้นการให้อภัยเป็นเรื่องสำคัญ เช่นเดียวกันให้อภัยคนที่เขาทำอะไรไม่ถูกใจเรา ถ้าไม่รู้จักการให้อภัยโดยเฉพาะการให้อภัยกับตัวเอง มันก็จะโกรธตัวเอง พอโกรธตัวเองแล้ว ความคิดที่จะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง มันก็จะไม่มี
นอกจากการให้อภัยแล้ว บางทีการที่เรารู้จักเรียกว่าลงโทษตัวเอง มันก็ช่วยได้เหมือนกัน หลวงปู่บุดดา เวลาท่านโกรธใคร สิ่งหนึ่งที่ท่านทำ คือท่านจะกลับมากราบพระ ไม่ได้แค่กราบ 3 ครั้ง 10 ครั้ง แต่กราบเป็นร้อยครั้ง มันทำให้จำได้ มันทำให้เข็ดหลาบ เวลาจะโกรธครั้งต่อไป นึกถึงกราบ 100 ครั้ง มันก็ได้สติขึ้นมา
คนเรา ถ้าไม่มีวิธีการกำราบตัวเอง ด้วยการลงโทษแบบนี้ กิเลสหรือตัวโทสะก็จะยังครองจิตครองใจเราเรื่อยไปเพราะมันย่ามใจ แต่พอลงโทษตัวเองด้วยการกราบเป็นร้อยครั้ง มันจำได้ สติมาได้เร็ว
เพราะฉะนั้น เรื่องการทำงานกับความโกรธ มันต้องอาศัยอุบายหลายอย่าง ทำหลายวิธี แล้วก็ต้องทำอย่างสม่ำเสมอทำเรื่อยๆ เพราะยิ่งทำเรื่อยๆมากเท่าไหร่ สติก็จะมาไวขึ้น เร็วขึ้น พอมีสติ ความโกรธก็จะค่อยๆล่าถอยไป เพราะว่ามันเป็นปฏิปักษ์กัน
แต่นอกจากสติแล้ว การให้อภัย การมีเมตตาก็สำคัญ แผ่เมตตาให้กับคนที่เราโกรธ แผ่เมตตาให้กับคนที่เรามีเรื่องกระทบ แผ่เมตตาให้กับคนที่ทำไม่ถูกใจเรา แล้วก็แผ่เมตตาให้กับตัวเอง มันก็จะทำให้ความโกรธทุเลาลง

Saturday Jan 01, 2022
25641229pm--อย่าจุดไฟเผาใจตนเอง
Saturday Jan 01, 2022
Saturday Jan 01, 2022
29 ธ.ค. 64 - อย่าจุดไฟเผาใจตนเอง : เตือนใจอยู่เสมอว่าเราหลงเมื่อไหร่เราเผลอเมื่อไหร่ก็เหมือนจุดไฟเผาใจตัวเองเมื่อนั้น ถ้าไม่อยากทำอย่างงั้นก็ต้องมีสติมีความรู้สึกตัวอย่างอย่างสม่ำเสมอ ใจไหวทันเวลามีอารมณ์ผุดขึ้นมาในใจไม่ว่าเกิดจากรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสมากระทบหูตาจมูกลิ้นกายใจ หรือเวลาใจมันเผลอคิดไปตามอำนาจของกิเลส ไปตามอำนาจของความเคยชิน
ถ้าเรามีสติ มีความรู้สึกตัว ใจเราก็จะรู้จักสงบเย็นได้ เราก็สามารถจะรักตัวเองได้อย่างแท้จริง เพราะว่าการรักตัวเองขั้นพื้นฐานก็คือการที่ไม่ทำร้ายตัวเอง โดยเฉพาะการจุดไฟเผาใจตัวเอง

Thursday Dec 30, 2021
25641224am--จากธรรมะสู่ธรรม
Thursday Dec 30, 2021
Thursday Dec 30, 2021
24 ธ.ค. 64 - จากธรรมะสู่ธรรม : การเห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง มันก็ทำให้เกิดความสงบเย็นในจิตใจได้ และยิ่งถ้าหากว่าทำด้วยความต่อเนื่อง และก็เห็นความจริง หรือเห็นมันตามที่เป็นจริงอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทะลุสิ่งที่เป็นสมมติ เข้าถึงความจริงขั้นปรมัตถ์ ความจริงนั้นแหละที่มันจะพาเราเข้าสู่อุดมคติสูงสุดของความเป็นชาวพุทธ
เพราะฉะนั้นเรื่องการทำความดีเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ว่าทำแล้วอย่าไปติดดี ขณะเดียวกัน ก็ไม่ลืมที่จะมาภาวนาเพื่อฝึกจิตให้เห็นความจริงด้วย อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ธรรมะนั้นมี 2 ระดับคือ จริยธรรมและสัจธรรม จริยธรรมคือการทำความดี ความดีเป็นสิ่งที่ควรทำ ส่วนสัจธรรมคือความจริง เป็นสิ่งที่ควรเห็น หรือควรเข้าถึง
ปฏิบัติธรรมต้องทำให้ครบถ้วน คือทั้งทำดี แล้วก็เห็นความจริง ทำดีก็ไม่ทิ้ง ความดีก็ไม่ทิ้ง ส่วนความจริงก็ต้องใส่ใจ ถ้าทำแต่ความดี แต่ว่ามองข้ามการฝึกจิตที่ให้เห็นความจริง ก็ยังต้องเจอกับทุกข์เพราะว่าความยึดติดอยู่ สำหรับชาวพุทธเรา ความดีต้องไม่ทิ้ง แต่ความจริงก็ต้องใส่ใจด้วย

Thursday Dec 30, 2021
25641223pm--ทำอะไรด้วยใจเต็มร้อย
Thursday Dec 30, 2021
Thursday Dec 30, 2021
23 ธ.ค. 64 (เย็น) - ทำอะไรด้วยใจเต็มร้อย : กับงานก็เหมือนกัน ทำงาน ใจอยู่กับงานก็จริง แต่ว่าก็ไม่ลืมตัว บางทีใจมันก็เกิดความหงุดหงิด ก็เห็นความหงุดหงิดนั้น เห็นความเครียด เมื่อมีความเครียดเกิดขึ้นก็เห็นความเครียด มันเครียดเพราะอะไร บางทีไปหวังผลไปคาดหวัง ไปนึกถึงว่าเมื่อไหร่มันจะเสร็จเมื่อไหร่จะเสร็จ ซึ่งเป็นเรื่องอนาคต
ก็เห็นใจที่ไปเร่งรีบ ไปรอ ไปหวังผลเร็วๆ เห็นอาการของใจแบบนั้น ดึงกลับมา เพราะตอนนั้นใจไม่อยู่กับปัจจุบันแล้ว ใจไม่ได้อยู่กับงานแล้ว มันไปอยู่กับอนาคตไปอยู่กับผลของงาน ไปอยู่กับคำชื่นชมสรรเสริญหรือสายตาของผู้คน ที่มีต่องานที่กำลังทำอยู่ ว่าเขาจะมองอย่างไร เขาจะชื่นชมหรือจะสรรเสริญ หรือจะต่อว่า ตำหนิ หรือว่ามันจะเสร็จตามเป้าไหม มันจะบรรลุถึงเป้าที่วางไว้ไหม นี่มันอนาคตทั้งนั้น
ตอนนั้นใจมันไม่ได้อยู่กับงาน ไม่ได้ทำงานด้วยใจเต็มร้อย ถ้าเราทำงานหรือทำอะไรด้วยใจเต็มร้อย อันนี้แหละจึงจะเรียกว่าเราใช้ชีวิตเต็มร้อย เดี๋ยวนี้คำว่าใช้ชีวิตเต็มร้อย เป็นสำนวนที่คนพูดบ่อย แต่ว่าความหมายมันมักจะหมายถึงการใช้ชีวิตให้สนุกสุดเหวี่ยงเต็มที่
แต่ที่จริงแล้วเราจะใช้ชีวิตเต็มร้อยไม่ได้เลย ถ้าเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันด้วยใจที่เต็มร้อย ถ้าเรามีชีวิตเต็มร้อยในแต่ละขณะๆ หมายความว่าเราใช้ชีวิตได้เต็มร้อยแต่ละขณะๆ อย่างนี้แหละจึงเรียกว่าเราใช้ชีวิตเต็มร้อย

Thursday Dec 30, 2021
25641223am--ใช้ชีวิตให้ดีก่อนไม่มีโอกาส
Thursday Dec 30, 2021
Thursday Dec 30, 2021
23 ธ.ค. 64 (เช้า) - ใช้ชีวิตให้ดีก่อนไม่มีโอกาส : การใช้ชีวิตก็เหมือนกัน ใช้ชีวิตให้เต็มที่ก็คือ ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์เพื่อส่งเสริมธรรม เพื่อสร้างเสริมธรรม ไม่ได้ใช้เพื่อเสพสุข ใช้ชีวิตเต็มร้อย เรามักจะได้ยินใช้เต็มร้อย เต็มร้อยในความหมายที่ถูกก็คือ สร้างบุญกุศลให้มันเต็มร้อยไว้เลย ให้มันเต็มจิต ให้มันเต็มหัวใจ ให้มันเต็มทั้งชีวิต
อันนี้จึงเรียกว่าใช้ชีวิตเต็มร้อย ซึ่งก็ต้องเริ่มต้นจากการที่มีสติเต็มร้อย มีความรู้สึกตัวเต็มร้อย ตราบใดที่ยังไม่มีสติเต็มร้อย ไม่มีความรู้สึกตัวเต็มร้อย ก็ยังถือว่าใช้ชีวิตเต็มร้อยไม่ได้ ที่ใช้ๆ กันมันไม่ใช่เต็มร้อย บางทีติดลบด้วย ต้องคิดใหม่ ใครที่บอกว่าในเมื่อชีวิตไม่แน่นอน จะตายเมื่อไหร่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นเสพสุขให้เต็มที่ อันนี้เป็นความคิดที่ผิดพลาด ที่หลงทางมาก
สิ่งที่ควรทำคือตรงข้าม คือสร้างความดี สร้างบุญสร้างกุศล สร้างประโยชน์ แล้วก็ฝึกจิตฝึกใจให้พร้อม อย่างที่หลวงปู่ดูลย์ท่านบอก การปฏิบัติที่เราพยายามปฏิบัติมาทั้งหมด ก็เพื่อใช้ในเวลานี้เท่านั้น เวลานี้คือเวลาไหน คือเวลาระยะสุดท้าย เวลาที่ใกล้จะหมดลมก็ได้ ทำให้การตายเป็นการตายที่สงบ และถ้าคิดแบบนี้ก็นำไปสู่การใช้ชีวิตให้เกิดคุณค่า ไม่ใช่แค่ตายดีอย่างเดียว แต่ว่าเป็นการมีชีวิตที่ดี อยู่ดีด้วย

Monday Dec 27, 2021
25641222pm--ทำดีโดยไม่เลือกหน้า
Monday Dec 27, 2021
Monday Dec 27, 2021
22 ธ.ค. 64 - ทำดีโดยไม่เลือกหน้า : ชาวพุทธจำนวนไม่น้อยคาดหวังว่าจะได้นั่นได้นี่ จึงนิยมทำบุญหรือถวายทานกับคนที่สูงกว่าเรา หรือคนที่มีคุณวิเศษ เพราะเชื่อว่าจะให้ผลตอบแทนสูง ไปๆมาๆการทำบุญก็เลยไม่ต่างจากการซื้อหุ้น เราก็ซื้อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง เดี๋ยวนี้การทำบุญของคนน้อยก็ทำบุญด้วยท่าทีแบบนี้ มันก็เลยมีการทำบุญแบบเลือกหน้า
ในขณะที่ สิ่งที่ควรทำก็คือทำบุญโดยไม่เลือกหน้าอยู่ที่ว่า เขามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าการทำบุญก็ดี รวมทั้งการทำความดี ถ้าเราใคร่ครวญสักนิด เราจะพบว่า ทำดีกับใครก็ตาม มันก็ดีทั้งนั้น ไม่ว่าคนนั้น จะเป็นคนที่เรารัก มีบุญคุณกับเรา หรือคนที่เอาเปรียบเบียดเบียนเรา
เพราะขึ้นชื่อว่าความดี มันก็ควรจะทำดีกับทุกคน โดยไม่เลือกหน้า และเพราะทำดีแบบนี้ มันจึงจะช่วยขัดเกลาจิตใจของเราและยกจิตใจของเราให้สูงขึ้น อันนี้ต่างหากที่เป็นบุญที่สำคัญ มากกว่าบุญที่คาดหวังว่าจะได้มาจากการถวายทานกับพระที่มีคุณวิเศษ หรือว่ามีภูมิธรรมสูง อันนั้นมันจะจริงแต่ว่าสิ่งที่มีอานิสงส์มาก ไม่น้อยไปกว่าการทำด้วยจิตที่ลดละ ไม่ได้มุ่งจะเอา

Monday Dec 27, 2021
25641218pm--การเตรียมตัวตาย
Monday Dec 27, 2021
Monday Dec 27, 2021
18 ธ.ค. 64 - การเตรียมตัวตาย : คนทั่วไปเชื่อว่ามีแต่คนแก่เท่านั้นที่นึกถึงความตาย แต่คนหนุ่มสาวไม่ควรคิดถึงความตาย เพราะจะทำให้พลังในการสร้างสรรค์ลดลง คนหนุ่มคนสาวไม่ตายหรอกหรือ ความตายเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่มียกเว้น แต่ความจริงง่าย ๆ อย่างนี้ ผู้คนกลับมองไม่เห็นเพราะเพลินกับการเสพการบริโภค สังคมทุกวันนี้ถูกครอบงำด้วยวัฒนธรรมที่เน้นการเสพ การบริโภค เน้นความสุขทางเนื้อหนัง ความตายมันเป็นปฏิปักษ์กับความสุขทางวัตถุโดยตรง เพราะว่ามันหมายถึงความสูญเสีย หมายถึงความพลัดพราก การหมดโอกาสที่จะได้เสพบริโภค แต่ไม่ว่าจะเพลินแค่ไหน ความตายมันก็มาโดยไม่เลือกเวลา มีนักร้อง ดาราดัง ๆ ที่ตายไปในช่วงที่เป็นวัยรุ่นก็เยอะ คือมันประมาทไม่ได้ ไม่ว่าจะหนุ่มสาว คนมีอายุ ก็มีโอกาสที่จะตายได้ตลอดเวลา คนแก่เขาต้องคิดถึงความตายมากขึ้น เพราะว่ามันมาใกล้ทุกทีแล้ว แต่คนหนุ่มคนสาวก็ใช่ว่าจะหนีความตายได้
อย่างไรก็ตาม การนึกถึงความตายก็ต้องนึกให้ดีเหมือนกัน ไม่ใช่นึกแล้วใจห่อเหี่ยว ถ้านึกแบบนั้นไม่ถูกต้อง คือหนึ่ง เรานึกถึงความตายเพื่อที่เราจะได้ไม่ประมาท ไม่เผลอคิดว่าเราจะอยู่ค้ำฟ้า สอง เราคิดถึงความตายเพื่อจะได้เร่งทำสิ่งที่ควรทำ ขยันขันแข็ง ไม่แชเชือน อะไรที่จะต้องทำก็ควรรีบทำเสียแต่เนิ่น ๆ อย่าปล่อยให้ชีวิตล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ พอความตายเข้ามาถึงแล้วจะนึกเสียดายว่า โอย ฉันไม่น่าปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป เราต้องรู้จักเอาความตายมากระตุ้นเตือนตัวเองเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีค่าที่สุด

Friday Dec 24, 2021
25641215am--เปิดรับความสุขทุกขณะ
Friday Dec 24, 2021
Friday Dec 24, 2021
15 ธ.ค. 64 - เปิดรับความสุขทุกขณะ : ความสุขไม่ได้อยู่ที่ไหน แต่อยู่ตรงนี้และเดี๋ยวนี้แล้ว เพียงแต่เปลี่ยนมุมมอง วางใจให้ถูก เราก็จะพบความสุขได้เสมอ ความสุขไม่ได้เกิดจากทรัพย์สมบัติ เกียรติยศ และอำนาจ แต่อยู่ที่ว่าเรามีสติรู้ทันอารมณ์ของตน และมีปัญญารู้เท่าทันธรรมดาโลก หรือไม่ หากมองเป็น ไม่เพียงพบความสุขรอบตัวเท่านั้น หากยังสามารถสัมผัสความสุขที่มีอยู่กับตัวเราแล้วด้วย
เมื่อใดก็ตามที่เราตระหนักว่าความสุขนั้นตามติดเราไปตลอด ไม่ว่าอยู่ที่ไหน อยู่ในสถานการณ์ใด มีอะไรมากระทบ เราก็สามารถพบความสุขได้เสมอ

Thursday Dec 23, 2021
25641214pm--พบอิสรภาพที่กลางใจ
Thursday Dec 23, 2021
Thursday Dec 23, 2021
14 ธ.ค. 64 (เย็น) - พบอิสรภาพที่กลางใจ : อิสรภาพที่แท้จริงอยู่ที่ใจเรา แม้ร่างกายยังต้องพึ่งพิงอาหารและน้ำ ร้อหนาวตามดินฟ้าอาศ เจ็บปวดเมื่อต้องของแหลม แต่จิตใจไม่จำเป็นต้องทุกข์ไปกับกายก็ได้ แม้ชีวิตและโลกรอบตัวจะผันผวนปรวนแปร ต้องสูญเสียทรัพย์ คนใกล้ชิดพลัดพรากจากไป แต่ใจก็ยังสามารถเป็นปกติได้ นี้คือศักยภาพแห่งจิตที่มีอยู่กับทุกคน เราทุกคนเกิดและเติบโตในโลกแห่งกาม แต่ก็สามารถอยู่เหนือกามได้ เราเกิดและเติบโตมาท่ามกลางความบีบคั้นแห่งทุกข์ แต่ก็สามารถอยู่เหนือทุกข์ได้ ทั้งนี้เพราะ “อริยโลกุตตรธรรมเป็นทรัพย์ประจำตัวของทุกคน” ดังมีพุทธพจน์รองรับ และมีพระบรมศาสดาเป็นแบบอย่างแห่งผู้ที่ลุถึงอิสรภาพดังกล่าว
อิสรภาพที่อยู่กลางใจนั้นจะเผยแสดงปรากฏแก่เราได้ต่อเมื่ออาสวะหรือกิเลสที่ห่อหุ้มนั้นถูกทำลายลง การทำความดี สร้างสมบุญกุศล เพื่อลดละความเห็นแก่ตัว เป็นเบื้องต้นแห่งการเข้าถึงอิสรภาพดังกล่าว ยิ่งทำความดีสร้างสมบุญกุศลมากเท่าไร ก็ยิ่งส่งเสริมมโนนธรรมภายในให้งอกงามและขัดเกลากิเลสให้เบาบางลง แต่หากบุญกุศลนั้นทำด้วยความเห็นแก่ตัว กล่าวคือทำเพราะอยากได้โชคลาภดังที่นิยมกระทำกัน ก็อาจทำให้กิเลสพอกหนาขึ้นและไกลจากอิสรภาพยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องรู้จักวางใจอย่างถูกต้องเมื่อทำบุญสร้างกุศล กล่าวคือทำบุญเพื่อลดละมิใช่เพื่อเอาให้มากขึ้น
การลดละกิเลสนั้นทำได้หลายอย่าง นอกจากการทำบุญให้ทานแล้ว ที่สำคัญคือการบำเพ็ญจิตภาวนาและปัญญาภาวนา เพื่อให้รู้กายและใจตามที่เป็นจริง จนเห็นชัดว่าไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเห็นว่า ตัวตน หรือ “ตัวกู ของกู” นั้นเป็นมายาภาพที่ถูกปรุงแต่งขึ้น การเห็นความจริงอย่างลึกซึ้งดังกล่าวย่อมนำไปสู่การปล่อยวางอย่างสิ้นเชิง ทำให้ความเห็นแก่ตัวปลาสนาการไปเมื่อกิเลสถูกทำลาย อิสรภาพที่กลางใจก็จะปรากฏในที่สุด

Thursday Dec 23, 2021
25641214am--ยอมรับธรรมชาติของความตาย
Thursday Dec 23, 2021
Thursday Dec 23, 2021
14 ธ.ค. 64 (เช้า) - ยอมรับธรรมชาติของความตาย : การระลึกว่าความตายอาจมาถึงเราเมื่อไรก็ได้ ยังทำให้เราเห็นถึงคุณค่าของแต่ละวันที่เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะมีหรือไม่ ทำให้เราเห็นถึงคุณค่าของแต่ละวันที่คนรักยังอยู่กับเรา เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะได้พบกันอีกหรือไม่ ทำให้เราชื่นชมกับสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่กับตัวและรอบตัว เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้เราจะมีโอกาสชื่นชมสิ่งเหล่านั้นหรือไม่ ทำให้เราติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วยความใส่ใจ เพราะเราไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะได้พบกันอีกหรือไม่